Source of Light = Flash Unit
มาต่อกันสำหรับบทสุดท้ายของอุปกรณ์ เรื่องแหล่งกำเนิดแสงนั้นเอง
ซึ่งโดยปกติเราจะใช้ flash ไม่ว่าจะเป็น ring flash, twin flash หรือ dual flash
สาเหตุที่ทำให้เราใช้ flash หัวกล้องปกติไม่ได้นั้น เพราะว่า การที่แฟลชอยู่ด้านบน ทำให้แสงเดินทางมาในมุมเฉียงลง มันมักจะทำให้เกิดเงาในภาพเสมอๆ ดังภาพที่แนบมา

ดังนั้นการใช้แฟลช ที่อยู่หน้าเลนส์และใกล้กับวัตถุ จะตอบโจทย์ในการถ่ายรูปในช่องปากมากกว่า

โดยปกติเราจะแบ่งแฟลชที่ใช้กันประจำออกเป็น 2 ประเภท นั้นคือ
1. Ring Flash
ตามชื่อเลย คือ จะมีการออกแบบให้แสงออกรอบๆ หน้าเลนส์เป็นวงกลม
ข้อดีของการที่แสงออกเป็นวงกลมรอบเลนส์จะทำให้ลบเงาทั้งหมดที่เกิดได้แน่นอน
ข้อจำกัดคือ ภาพที่ได้จะดูไม่มีเหลี่ยมมุม ทำให้ดูขาดมิติไป ไม่เหมาะกับการถ่าย esthetic
ปกติมักใช้ในการถ่ายฟันหลัง

2. Twin flash หรือ Dual Flash
ก็จะเป็น แฟลชที่มี 2 ข้าง สามารถ ปรับทิศทางการวางตัวของแสงได้ นอกจากนี้ยังสามารถถอดแยกชิ้นออกมาจากหน้าเลนส์ได้
ข้อดีคือ สามารถถ่ายได้หลากหลายรูปแบบ ภาพมีมิติที่สวยงาม หากใช้คู่กับ Bracket และ Pocket Bouncer ยิ่งทำให้เกิดภาพที่มีมิติ สวยงาม
ข้อจำกัดคือ ยุ่งยากมาก ต้องปรับตลอดเวลา ถ่ายฟันหน้า กับฟันหลังใช้แฟลชวางตัวกันคนละตำแหน่ง คนที่ใช้ต้องมีประสบการณ์ และใช้เวลาถ่ายนาน
โดยส่วนตัวเลยพก กล้อง 2 ตัว ตัวหนึ่งถ่ายฟันหน้า อีกตัวถ่ายฟันหลัง

นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมที่ช่วยทำให้แสงแฟลชเกิดความนุ่มนวลหรือเปลี่ยนแปลงลักษณะแสง นั้นก็คือ
1. Diffuser เป็นพลาสติกขาวขุ่น หรือกระดาษสีขาว ที่จะทำให้แสงเกิดการกระเจิงตัวออก ทำให้ภาพที่ได้มีความนุ่มนวลมากขึ้น
2. Bouncers คล้ายๆปีกนก จะทำหน้าที่เปลี่ยนทิศทางของแสง โดยแสงจะกระทบที่ตัว Bouncer ก่อนค่อยไปกระทบที่ตัวฟัน ทำให้ได้แสงที่มีลักษณะกว้าง และนุ่มนวล โดยยิ่ง Bouncer ใหญ่ยิ่งทำให้เกิดภาพที่สวยขึ้น
ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลมากคือ Bracket เพราะจะให้สามารถปรับมุม และเพิ่มระยะห่างของแฟลชได้มากขึ้น
เดี่ยวค่อยลองดูภาพประกอบกันครับ จะมี 3 ปัจจัยก็คือ 1 ชนิดของแฟลช 2 ตัว Diffuser หรือ Bouncers และ 3 Bracket ครับ
ปล. ทุกภาพ จบหลังกล้องครับ ไม่ได้แต่งเพิ่ม อาจถ่ายไม่สวยเต็มประสิทธิภาพของชุดนั้นๆ เน้นถ่ายให้เห็นเป็นแนวทางของแต่ละอุปกรณ์รรับ
